หน้าแรก | เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก | ติดต่อโฆษณา | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อเรา

ตัวอย่างสัญญาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์กว่า 100 แบบ

สำหรับจ้าของหอพักคุยเรื่อง อื่นๆ

ตัวอย่างสัญญาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์กว่า 100 แบบ

โพสต์โดย BK เมื่อ พุธ 15 ก.ค. 2009 2:44 pm

สัญญาขายฝาก

ทำที่…………………………………………...
วันที่…………..เดือน…………………….พ.ศ.…………

สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นระหว่าง …………………………………………………………………….อยู่บ้านเลขที่………………………………..ถนน………………………แขวง…………….………………...เขต…………….……………………………กรุงเทพมหานคร ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้ขายฝาก” ฝ่ายหนึ่งกับ……………………………… ……………………………อยู่บ้านเลขที่ ………………………..ถนน……………………….แขวง……………………………อำเภอ/เขต…………….………………………กรุงเทพมหานคร ซึ่งต่อไปในสัญญานี้จะเรียกว่า “ผู้ซื้อฝาก” อีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญากันมีข้อความดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้ขายฝากตกลงขายฝากและผู้ซื้อฝากตกลงรับซื้อฝาก ที่ดินโฉนดเลขที่………………...
เลขที่ดิน……………………………หน้าสำรวจ………………………………ตำบล…………………….….
อำเภอ…………………………จังหวัด………………………………พร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าว ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ขายฝาก เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น…………………บาท (……………………………..)
ข้อ 2. ผู้ซื้อตกลงให้ผู้ขายฝากไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝาก คืนได้ภายในกำหนดระยะ เวลา……….ปีนับแต่วันจดทะเบียนสัญญาขายฝากฉบับนี้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่โดยกำหนดสินไถ่กันเป็นจำนวนเงิน
…………………………บาท (……………………………………………………..)
ข้อ 3. ค่าฤชาธรรมเนียมการขายฝากซึ่งผู้ซื้อได้ออกไปนั้น ผู้ไถ่ต้องใช้ให้แก่ผู้ซื้อพร้อมกัน สินไถ่ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมการไถ่ทรัพย์นั้น ผู้ไถ่พึงออกใช้
ข้อ 4. ผู้ซื้อตกลงว่าจะไม่นำทรัพย์สินที่ขายฝากออกจำหน่ายถ้าผู้ซื้อจำหน่ายทรัพย์สินที่ขายฝากนั้นโดยฝ่าฝืนสัญญาข้อนี้ ผู้ซื้อต้องรับผิดต่อผู้ขายฝากในความเสียหายใดๆ อันเกิดแต่การนั้น
ข้อ 5. ในกรณีที่ผู้ขายฝากได้ใช้สิทธิไถ่ทรัพย์สินที่ขายฝากคืนภายในกำหนดเวลาตามข้อ 2. หากปรากฏว่าทรัพย์สินนั้นถูกทำลายหรือทำให้เสื่อมเสียไปเพราะความผิดของผู้ซื้อ ผู้ซื้อจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ขายฝาก





สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกันทุกประการ ทั้งสองฝ่ายได้อ่าน และเข้าใจข้อความตามสัญญาโดยตลอดแล้วเห็นว่าถูกต้องตามเจตนา จึงลงลายมือชื่อให้เป็นหลักฐานต่อหน้าพยานและต่างยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ

ลงชื่อ…………………………………………ผู้ขายฝาก
(………………………………………..)
ลงชื่อ…………………………………………ผู้ซื้อ
(………………………………………..)
ลงชื่อ…………………………………………พยาน
(…………………………………………)
ลงชื่อ…………………………………………พยาน
(…………………………………………)
BK
 

สัญญาจะซื้อจะขาย

โพสต์โดย BK เมื่อ พุธ 15 ก.ค. 2009 2:46 pm

สัญญาจะซื้อจะขาย

ทำที่…………………………………
วันที่………… เดือน …………………… พ.ศ. ………
สัญญานี้ทำขึ้นระหว่าง……………………………………………………………………………
สำนักงานอยู่เลขที่…………….ถนน………………………..ตำบล ………………………………………
อำเภอ……………………………………………จังหวัด…………………………………………………
(ต่อไปนี้จะเรียกว่า “ผู้จะขาย”) ฝ่ายหนึ่ง และ
ในฐานะตัวแทนของตัวการซึ่งไม่ประสงค์จะระบุชื่ออยู่ที่เลขที่…………ถนน………………….
(รวมเรียกว่า “ผู้จะซื้อ”) อีกฝ่ายหนึ่ง มีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
1. ผู้จะขายเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่…………………. ตำบล……………………..
อำเภอ…………………………………… จังหวัด………………………………………………………...
เนื้อที่ตามโฉนดรวมประมาณ………………………………….…… ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “ทรัพย์ที่จะขาย”
2. ผู้จะขายและผู้จะซื้อตกลงซื้อขายทรัพย์ที่จะขาย โดยเป็นการขายเหมายกแปลงเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น………………………….. บาท (…………………………………………………………………..)
โดยผู้จะซื้อได้ชำระราคาดังกล่าวให้แก่ผู้จะขายไว้เรียบร้อยแล้วในวันทำสัญญานี้ โดยเช็คธนาคาร……...
…………………………..เลขที่………………………….เงิน……………………………………….บาท
(………………………………………..) และเช็คธนาคาร ……………………………………………….
เลขที่ ………………………….. เงิน…………………… บาท (…………………………………………)
3. การโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่จะขาย คู่กรณีทั้งสองฝ่ายตกลงจะจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์ที่จะ ขาย ณ สำนักงานที่ดิน เมื่อผู้จะซื้อได้รับอนุมัติจากทางราชการให้ทำการค้าที่ดินไม่ว่าในนาม
………………………………….. เอง และ/หรือ ในนามตัวการซึ่งไม่เปิดเผยเชื่อแล้ว โดยผู้จะซื้อจะต้องระบุชื่อตัวการซึ่งจะเข้าถือกรรมสิทธิ์ก่อนในบันทึกท้ายสัญญานี้ และจะต้องแจ้งกำหนดวันนัดโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้จะขายทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วัน
กรณีจะเป็นด้วยประการใดก็ตาม ผู้จะซื้อจะต้องดำเนินการในวรรคแรกให้เสร็จสิ้นไปภายใน…………………………………. หากพ้นกำหนดนี้แล้ว ให้ถือว่าผู้ที่จะระบุชื่อถือกรรมสิทธิ์ และผู้จะซื้อทรัพย์ที่จะขายตามสัญญานี้คือ…………………………………. เอง และรับผิดชอบในบรรดาความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้จะขายทุกประการ
4. ค่าธรรมเนียม ค่าอากร ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นสำหรับการทำสัญญานี้ การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ผู้จะขายเป็นผู้รับภาระเองทั้งสิ้น
5. นับแต่วันที่ทำสัญญานี้ และผู้จะซื้อได้ชำระราคาตามข้อ 2. เรียบร้อยแล้ว ผู้จะซื้อมีสิทธิ์เข้าครอบครองและทำประโยชน์หรือปรับปรุงทรัพย์ที่จะขายได้ทันทีและให้ถือว่าผู้จะซื้อได้รับมอบการครอบครองทรัพย์ที่จะขายไปจากผู้ขายแล้วโดยสมบูรณ์ทันที
6. โดยเหตุที่การซื่อขายครั้งนี้เป็นการขายเหมายกแปลง ดังนั้น หากปรากฎภายหลังว่าทรัพย์ที่จะขายมีเนื้อที่ขาดตก หรือล้ำจำนวนไปกว่าที่ระบุในข้อ 1. แม้จะเพียงใดก็ตาม ทั้งผู้จะซื้อและผู้จะขายตกลงไม่ถือเป็นเหตุเลิกสัญญา และ/หรือเรียกร้องค่าทดแทนใด ๆ โดยเหตุในเรื่องนี้เป็นอันขาด

เพื่อเป็นหลักฐาน ผู้จะซื้อและผู้จะขาย ได้ลงลายมือไว้เป็นสำคัญ ณ วัน เดือน ปี ที่ระบุข้างต้น

ลงชื่อ…………………………………… ผู้จะขาย ลงชื่อ………………………………………. ผู้จะซื้อ
(……………………………………) (……………………………………….)

ลงชื่อ…………………………………… พยาน ลงชื่อ………………………………………. พยาน
(……………………………………) (……………………………………….)
BK
 

สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง

โพสต์โดย BK เมื่อ พุธ 15 ก.ค. 2009 2:47 pm

สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
(โครงการ………………………..)


สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นเมื่อวันที่……………………….ณ บริษัท……………………………จำกัด
ระหว่าง………………………………..โดย…………………………………กรรมการผู้มีอำนาจ สำนัก
งานตั้งอยู่เลขที่ …………….ตรอก/ซอย……………………ถนน ……………….ตำบล…………ซึ่งต่อ
ไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้จะขาย” ฝ่ายหนึ่งกับ ………………………………………………………….
ถือบัตร……………………………………เลขที่ ……….………………………ออกให้ ณ ……………
เมื่อวันที่……………อยู่บ้านเลขที่………………ตรอก/ซอย……………………ถนน…………………..
ตำบล/แขวง…………………………อำเภอ/เขต…………………………….จังหวัด………….ซึ่งต่อไป
ในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้จะซื้อ” ฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันดังมีข้อความต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้จะขายตกลงขายและผู้จะซื้อตกลงซื้อที่ดินบางส่วนของโฉนดเลขที่……………..เลขที่
ที่ดิน……………………ตำบล/แขวง………………………อำเภอ/เขต………………………………….
จังหวัด…………………………เนื้อที่ที่ดิน…………………ไร่………….งาน………..ตารางวา ตรงกับ
แบบแปลงหมายเลข……………………………พร้อมด้วยสิ่งก่อสร้างแบบบ้านพักอาศัยแบบ………….
จำนวน…………………………หลัง ในราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นเงินจำนวน……………บาท
(………………………………………………………….)
ข้อ 2. โดยผู้จะซื้อตกลงชำระเงินตามข้อ 1) ให้แก่ผู้จะขายดังนี้
2.1 ชำระเงินจำนวน…………บาท (………………………………) ให้แก่ผู้จะขายแล้ว
ในวันทำสัญญาจองการซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างก่อนหน้าวันทำสัญญานี้และชำระ เงินในวันทำสัญญานี้ ให้อีกจำนวน……………………….บาท (……………………………………….) ซึ่งผู้จะขายได้รับไว้เรียบร้อยแล้ว
2.2 ส่วนที่เหลือจำนวน…………บาท (………………………………) ผู้จะซื้อตกลงชำระให้แก่ผู้จะขายเป็นรายงวดเดือนดังนี้
งวดที่ 1 ชำระภายในวันที่………..ของเดือน……………..พ.ศ. ……………
จำนวนเงิน………………………….…บาท (………………………………)
งวดที่ 2 ชำระภายในวันที่………..ของเดือน……………..พ.ศ. ……………
จำนวนเงิน………………………….…บาท (………………………………)
งวดที่ 3 ชำระภายในวันที่………..ของเดือน……………..พ.ศ. ……………
จำนวนเงิน………………………….…บาท (………………………………)
ข้อสังเกต หากจำนวนงวดในข้อ 2.2 มีมากกว่านี้ให้เพิ่มจำนวนงวดเดือนดังกล่าวไปจนครบ
และงวดสุดท้ายจำนวน..………………………….…บาท (………………………………..…)
ผู้จะซื้อตกลงชำระให้แก่ผู้จะขายในวันที่……………………….ซึ่งเป็นวันที่ผู้จะขายไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่ผู้จะซื้อ ณ สำนักงานที่ดิน…………………………………
โดยผู้จะขายได้มีหนังสือบอกกล่าวไปยังผู้จะซื้อให้ได้ทราบล่วงหน้าก่อนเป็นเวลาอย่างน้อย…………วัน
และผู้จะซื้อรับรองว่าพร้อมที่จะไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ตามที่ผู้จะขายได้นัดดังกล่าวไว้
อนึ่ง หากปรากฏว่ามีการรังวัดสอบเขตที่ดินก่อนจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์แล้วปรากฏว่าที่ดินตามข้อ 1) มีจำนวนเนื้อที่ที่ดินเพิ่มขึ้นหรือลดลงกว่าที่ระบุไว้ ผู้จะซื้อและผู้จะขายตกลงให้มีการลดและเพิ่มราคาในส่วนที่เพิ่มหรือลดลงกว่าที่ระบุไว้ผู้จะซื้อและผู้จะขายตกลงให้มีการลดและเพิ่มราคาในส่วนที่เพิ่มหรือลดลงดังกล่าวได้ตามความเป็นจริง โดยคิดในราคาที่ดิน ตารางวาละ ………………….บาท
(………….………………………………..…) โดยผู้จะซื้อจะชำระให้แก่ผู้จะขายในวันก่อนจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์
ข้อ 3. ในกรณีที่ผู้จะซื้อชำระเงินตามสัญญานี้ให้แก่ผู้จะขายด้วยเช็คหรือตั๋วเงินอื่นจะต้องลงวันที่ถึงกำหนดชำระเงินตามเช็คหรือตั๋วเงินนั้นไม่เกินวันครบกำหนดชำระเงินในแต่ละงวดที่กำหนดไว้ในสัญญาฉบับนี้ และจะถือว่าการชำระหนี้จะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อผู้จะขายได้รับเงินตามเช็คหรือตั๋วเงินนั้นเรียบร้อยแล้ว
ผู้จะซื้อยินยอมจ่ายดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ……………………………ต่อปี หรือลงตามเพดานสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ในขณะนั้น พร้อมทั้งเบี้ยปรับในอัตราร้อยละ……….ต่อเดือน เพื่อชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้จะขายสำหรับหนี้ใด ๆ ที่ผู้จะซื้อนัดชำระหนี้ตามสัญญานี้ไปจนกว่าผู้จะขายจะได้รับชำระหนี้จากผู้จะซื้อจนเสร็จสิ้น แต่ทั้งนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิที่ผู้จะขายถือว่าผู้จะซื้อเป็นฝ่ายผิดสัญญา
ข้อ 4. ผู้จะขายตกลงจะดำเนินการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามสัญญานี้ให้แก่ผู้จะซื้อเมื่อผู้จะซื้อได้ชำระเงินตามข้อ 2) ให้แก่ผู้จะขายครบถ้วนแล้ว โดยคู่สัญญาจะต้องจัดเตรียมเอกสารหลักฐานที่จำเป็นในการจดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิ์และจะต้องส่งคู่ฉบับสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างฉบับนี้คืนให้แก่ผู้จะขายก่อนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์
ข้อ 5. ในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามสัญญาฉบับนี้ ผู้จะซื้อตกลงเป็นผู้รับภาระในการชำระค่าธรรมเนียม ค่าอากรแสตมป์ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพียงฝ่ายเดียว
ข้อ 6. ในระหว่างที่ผู้จะซื้อชำระราคาที่ดินให้แก่ผู้จะขายตามข้อ 2) หรือในกรณีที่ผู้จะซื้อผิดนัดไม่ชำระหนี้อย่างใดในสัญญานี้ ผู้จะขายจะนำเอาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวไปให้ผู้อื่นเช่าโดยตรงหรือปริยาย หรือทำนิติกรรมใด ๆ อันจะเป็นผลผูกพันที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวไม่ได้เป็นอันขาด รวมทั้งจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้จะขายหรือเจ้าของที่ดินข้างเคียงไม่ว่าด้วยประการใด
ข้อ 7. ในระหว่างการก่อสร้างผู้ซื้อจะให้บุคคลอื่นเข้ามาทำงานเพิ่มเติมต่อจากแบบก่อสร้างและ/หรือรายการจากที่มีอยู่ในสัญญานี้ไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้จะขายเป็นหนังสือก่อน
ผู้จะขายยินยอมให้ผู้จะซื้อหรือตัวแทนเข้าตรวจอาคารที่ก่อสร้างเป็นครั้งคราวตามโอกาสที่เหมาะสม แต่ผู้จะซื้อจะต้องไม่ขัดขวางหรือรบกวนการก่อสร้าง
ข้อ 8. โดยที่ผู้จะขายและผู้จะซื้อต่างมีเจตนารมณ์ที่จะให้ที่ดินในบริเวณแห่งนี้เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยชั้นดีมีความสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย อีกทั้งเพื่อประโยชน์สุขของผู้จะซื้อและผู้อาศัยทั้งหลาย คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงให้ข้อความต่อไปนี้เป็นสาระสำคัญของสัญญานี้ด้วย ซึ่งถ้าคู่สัญญาทั้งหลาย คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงให้ข้อความต่อไปนี้เป็นสาระสำคัญของสัญญานี้ด้วย ซึ่งถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดประพฤติผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทันที
8.1 ผู้จะซื้อสัญญาว่าจะไม่นำที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ซื้อไปเป็นอู่ซ่อมรถยนต์อุปกรณ์เครื่องจักกลทุกชนิด หรือประกอบการค้าของเก่า หรือประกอบการค้าอื่นใดที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนตลอดจนขัดต่อกฎหมาย
8.2 ผู้จะซื้อสัญญว่าจะไม่ทำการติดตั้งป้ายหรือแผงโฆษณาหรือข้อความอื่นใดในทางการโฆษณากับตัวอาคาร หรือบริเวณที่อยู่อาศัย บริเวณถนน ทางเดิน หรือสาธารณะ อันเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ของที่พัฒนาแห่งนี้
8.3 ผู้จะซื้อรับรองว่าจะไม่ใช้ถนน ทางเดิน หรือที่สาธารณะในการแข่งขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือพาหนะอื่นใดอันก่อให้เกิด อันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดของบุคคลอื่น
8.4 เพื่ออำนวยและคุ้มครองประโยชน์แก่ผู้จะซื้อเป็นส่วนร่วม ผู้จะซื้อต้องไม่ใช้หรือยินยอมให้บริเวณของผู้จะซื้อหรือผู้ใช้ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของที่ดินที่จะซื้อขายเป็นทางผ่านเข้าไปในหรือนอกเขตที่ดินที่จะซื้อขาย หรือเป็นทางผ่านไปใช้ทาง ซอย ถนน ในบริเวณ หรือนอกบริเวณที่ดินซึ่งผู้จะขายพัฒนาอยู่ รวมทั้งต้องไม่ให้หรือยินยอมให้บริวารของผู้จะซื้อ หรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้เพื่อการติดตั้ง วางสาย และ/หรือฝังท่อสำหรับการไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ ทางระบายน้ำ สิ่งปลูกสร้างตลอดจนสาธารณูปโภค อื่นใดบนพื้นดิน หรือใต้ดินด้วย ทั้งนี้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้จะขายเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน
8.5 ในกรณีผู้จะซื้อแก้ไข ต่อเติม ดัดแปลงใด ๆ ในตัวอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างผู้จะซื้อจะต้องใช้ชายคาหรือส่วนที่อยู่นอกสุดของอาคารมีระยะห่าง จากแนวเขตที่ดินที่ติดต่อกับถนน ทางเดินสาธารณะทะเลสาป หรือคลองสาธารณะไม่น้อยกว่า 3 เมตร
8.6 รั้วด้านหลังจะต้องมีความสูงไม่เกิน 2.10 เมตร จากระดับทางเท้า ยกเว้นรั้วด้านข้างและด้านหน้าที่ติดกับถนนให้มีความสูงได้ไม่เกิน 1.70 เมตร จากระดับทางเท้า และให้ใช้รั้วโปร่งทั้งหมด หรือปลูกต้นไม้ หรือแบบที่ผู้จะขายเป็นผู้กำหนด
8.7 ผู้จะขายหรือตัวแทนของผู้จะขายมีอำนาจในการห้ามมิให้ยานพาหนะของผู้จะซื้อ บริวารหรือลูกจ้างของผู้จะซื้อ หรือบุคคลอื่นใดฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับดังกล่าวข้างต้นของผู้จะขายผ่านเข้าออกบริเวณที่อยู่อาศัย จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกข้อบังคับและระเบียบของผู้จะขาย
8.8 เพื่อให้การพัฒนาที่ดินแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยโดยสมบูรณ์แบบ และเพื่อประโยชน์สุขของผู้ที่เข้าอยู่อาศัย ผู้จะขายจะทำการจัดให้มีสาธารณูปโภคและบริการที่จำเป็นขึ้นในบริเวณที่พัฒนาแห่งนี้ โดยคิดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในอัตราจำนวนที่ดินแปลงละ………….บาท ต่อเดือน บริการดังกล่าว เช่น ยามรักษาการณ์ แสงสว่างในทางสาธารณะ (ไฟแสงนวล) รักษาความสะอาดทางระบายและท่อระบายน้ำ เป็นต้น
อัตราค่าบริการดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้โดยทางผู้จะขายสงวนสิทธิ์มิได้ทำการบอกกล่าวแต่ประการใด และในอนาคตผู้จะขายได้ทำการจัดตั้งชมรมหรือสมาคมของผู้อยู่อาศัยเพื่อดำเนินการดูแลรักษาสาธารณูปโภคและบริการดังกล่าว ซึ่งผู้จะซื้อสัญญาว่าจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมตามระเบียบการปฏิบัติของชมรมหรือสมาคมนับแต่วันลงนามในสัญญานี้ และยินยอมลงลายมือชื่อในระเบียบข้อบังคับของชมรมหรือสมาคมที่จัดตั้งขึ้น
กรณีที่ผู้จะซื้อได้โอนกรรมสิทธิ์แล้วและมีความจำเป็นจะต้องทำการจำหน่ายจ่ายโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างพร้อมที่ดิน หรือ ให้บุคคลใดเช่าแล้ว ผู้จะซื้อรับรองว่าจะให้ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์หรือผู้เช่าสมัครเป็นสมาชิกของชมรมหรือสมาคมโดยรับภาระค่าใช้จ่าย และปฏิบัติตามสัญญาข้อนี้และระเบียบวาระข้อบังคับของชมรมหรือสมาคม
ข้อ 9. หากผู้จะซื้อมีความประสงค์หรือจำเป็นจะต้องทำการโอนกรรมสิทธิ์เรียกร้องตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างให้แก่บุคคลอื่น ให้ผู้จะซื้อแจ้งความประสงค์หรือความจำเป็นดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรต่อผู้จะขายก่อน โดยที่ผู้จะขอรับโอนสิทธิเรียกร้องจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเข้าทำนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้ และผู้จะขอรับโอนสิทธิ์นี้จะต้องดำเนินการปฏิบัติตามสัญญาฉบับนี้ทุกประการ ในการโอนสิทธิดังกล่าวผู้จะซื้อยินยอมชำระค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนเงิน ………………………บาท (………………………….) ให้แก่ผู้จะขาย
ข้อ 10. หากผู้จะซื้อผิดนัดไม่ชำระราคาที่ตกลงไว้ในข้อ 2) ไม่ว่างวดหนึ่งงวดใดก็ดี หรือผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใดก็ดี ให้ถือว่าผู้จะซื้อเป็นฝ่ายผิดนัดผิดสัญญาจะซื้อจะขายฉบับนี้ ผู้จะขายมีอำนาจในการบอกเลิกสัญญาได้ทันทีโดยมิต้องมีการบอกกล่าวล่วงหน้า และบรรดาเงินที่ได้ใช้มาแล้วก่อนที่จะมีการบอกเลิกสัญญานี้ผู้จะขายมีสิทธิ์ริบเอาไว้ทั้งสิ้น ทั้งนี้ ไม่เป็นการตัดสิทธิที่ผู้จะขายจะเรียกร้อง ค่าเสียหายและดอกเบี้ยอัตราตามที่ระบุไว้ในข้อ 3) วรรคสอง อันเกิดจากการผิดสัญญานี้ได้เป็นส่วนหนึ่งต่างหาก
ในกรณีที่ผู้จะขายได้ผ่อนเวลาต่าง ๆ ตามสัญญานี้ให้แก่ผู้จะซื้อหาทำให้สิทธิของผู้จะขายที่มีอยุ่ตามสัญญาฉบับนี้เสียไปแต่อย่างใดไม่
ในทำนองเดียวกัน หากผู้จะขายผิดสัญญาไม่ไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่ผู้จะซื้อผู้จะซื้อมีสิทธิฟ้องบังคับคดีให้ปฏิบัติตามสัญญาและเรียกค่าเสียหายจากผู้จะขายได้เป็นส่วนหนึ่งต่างหาก
ข้อ 11. เมื่อผู้จะซื้อผิดสัญญาไม่ว่าด้วยประการใด ๆ ผู้จะซื้อยินยอมให้ผู้จะขายขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างตามสัญญานี้ให้แก่ผู้จะซื้อรายอื่นต่อไปได้ทันที
บรรดาเอกสารหรือหนังสือบอกกล่าวใด ๆ ที่ผู้จะขายมีไปถึงผู้จะซื้อหรือปิดไว้ ณ สถานที่อยู่ที่ปรากฏในสัญญานี้ให้ถือว่าผู้จะซื้อได้ทราบข้อความนั้นแล้ว
ในกรณีที่ผู้จะซื้อย้ายที่อยู่หรือภูมิลำเนา ให้เป็นหน้าที่ของผู้จะซื้อดำเนินการแจ้งให้ผู้จะขายทราบถึงการเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้นภายใน………..วัน นับแต่มีการโยกย้าย มิฉะนั้นถือว่าผู้จะซื้อยังคงมีสถานที่อยู่ดังเดิมที่ปรากฏในสัญญานี้
ข้อ 12. นอกเหนือจากกรณีผู้จะขายสามารถทำการบอกเลิกสัญญากับผู้จะซื้อได้ตามข้อ 8) แล้ว ผู้จะซื้อยินยอมให้ผู้จะขายบอกเลิกสัญญากับผู้จะซื้อในกรณีอื่นใดได้อีกตามแต่ผู้จะขายจะพิจารณาเห็นสมควรทั้งต้องไม่เป็นการขัดกับจารีตประเพณี ศีลธรรมอันดี หรือความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทั้งนี้ ผู้จะขายจะต้องคืนเงินที่ได้ทำการรับไว้จากผู้จะซื้อพร้อมดอกเบี้ยในอัตราที่เท่ากับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดของการฝากเงินประเภทออมทรัพย์กับทางธนาคารในขณะที่มีการบอกเลิกสัญญานั้น และชำระภายในระยะเวลา……………วันหลังจากวันที่ทำการบอกเลิกสัญญาดังกล่าว
สัญญานี้ถูกทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจข้อความถูกต้องตรงกันแล้วจึงได้ทำการลงลายมือชื่อไว้พร้อมประทับตราเป็นสำคัญ (ถ้ามี) ต่อหน้าพยาน และเก็บสัญญาไว้ฝ่ายละฉบับ

ลงชื่อ……………………………………ผู้จะขาย /แทน ลงชื่อ……………………………….…ผู้จะ.ซื้อ
(………………………………………) (………………………………….…)
ลงชื่อ……………………………………พยาน ลงชื่อ……………………………….…พยาน
(………………………………………) (……………………………………)
BK
 

สัญญาจ้างเขียนแบบก่อสร้างหรือตกแต่ง

โพสต์โดย BK เมื่อ พุธ 15 ก.ค. 2009 2:48 pm

สัญญาจ้างเขียนแบบก่อสร้างหรือตกแต่ง
(สำหรับแปลนบ้านเรือน, ตึก, คฤหาสน์, ห้องแถว, ตึกแถว, แฟลต, อพาร์ทเม้นท์, ทาวเฮ้าส์, และอาคารที่ทำการ ฯลฯ)


สัญญาทำที่………………………………………………..
วันที่………….เดือน……………………พ.ศ. 25………..
เวลา…………….น.

สัญญานี้ทำขึ้นระหว่าง ….……………………….………………….………อายุ……………ปี
บัตรประจำตัว….…………………เลขที่….…………………ออกบัตรที่….……………………………
วันออกบัตร…………/………../………..วันหมดอายุบัตร………./…..…../………/ อาชีพ……………
ภูมิลำเนาอยู่เลขที….…………………ถนน….…………………ตำบล….……………………………..
เขต/อำเภอ….…………………….…………………จังหวัด….…………………เขตไปรษณีย์ที่………
พักอยู่ที่….…………………….…………………ทำงานอยู่ที่….………………… โทร. ……………..
ซึ่งในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ว่าจ้าง” ฝ่ายหนึ่ง กับ….…………………….…………………….…………
อายุ……………ปี ซึ่งเป็นสถาปนิกตามใบอนุญาตเลขที่….…………………ถือบัตรประจำตัว……….
เลขที่….…………ออกบัตรที่….…………………ตำบล………….……………เขต/อำเภอ……………
จังหวัด….…………………เขตไปรษณีย์ที่….…………………ขณะนี้พักที่….………………………..
ทำงานที่….…………………….……………ตำแหน่ง……….…………………โทร….………………
ซึ่งในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้รับจ้าง” อีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันทำสัญญาขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน เพื่อยึดถือไว้เป็นหลักฐานฝ่ายละฉบับ ตามข้อตกลงดังใจความต่อไปนี้
(1) ผู้ว่าจ้าง ขอว่าจ้างให้ผู้รับจ้างเป็นผู้ออกแบบเขียนแปลนเพื่อใช้ในการก่อสร้าง……………
….…………………ซึ่งจะทำการสร้างขึ้น ณ บริเวณที่ ….…………………มีขนาดเนื้อที่ทำการก่อสร้าง ….…………………ตารางเมตร ตามรูปแบบแผนผังหรือแผนที่ด้านหลังของสัญญานี้ ซึ่งสถานที่สำหรับก่อสร้างดังกล่าวนี้ อยู่ที่ถนน….…………………ตำบล….…………………เขต/อำเภอ….……
(2) แบบก่อสร้างดังกล่าวจะต้องมีขนาดกว้าง….…………เมตร ยาว……………เมตร และสูง ทั้งสิ้น………….เมตร โดยไม่นับส่วนสูงที่เลยจากฝ่าของเพดานชั้นบนสุด แบ่งออกเป็น ……..ชั้น ทุกชั้นมีขนาดความกว้างยาวและสูงเท่ากับชั้นล่างสุดซึ่งสูง….………………เมตร รวมทั้งสิ้นมี……ห้อง
คิดเป็นเนื้อที่ภายในห้องทั้งหมด ……………ลูกบาศก์เมตร โดยผู้ออกแบบจะต้องระบุขนาดและชนิดหรือคุณภาพของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง ณ จุดต่าง ๆ ให้ละเอียดและเหมาะกับขนาดของแบบที่ว่าจ้างให้เขียนนั้นให้เหมาะสมที่สุด ทั้งจะต้องคำนึงถึงความสว่างภายในอาคารและทิศทางความร้อนจากแสงอาทิตย์หรือแสงแดด ทิศทางของกระแสลมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพายุลมร้อน-หนาว หรือพายุใต้ฝุ่น และพายุฝนด้วย
(3) ผู้รับจ้างตกลงที่จะเขียนแบบแปลนการก่อสร้างหรือตกแต่ง……………………………..
ดังกล่าวข้างต้นให้แล้วเสร็จภายใน……….วันนับจากวันทำสัญญานี้ หากไม่แล้วเสร็จตามกำหนด ผู้รับจ้างยินดีให้ปรับเป็นจำนวน…………บาท ต่อวันจนกว่าจะส่งมอบงานเขียนแบบที่สมบูรณ์นี้ได้และถ้าไม่สามารถส่งแบบที่จ้างให้เขียนได้ภายในกำหนด…………..วัน ยินยอมให้ผู้ว่าจ้างเลิกสัญญาได้ทันที
(4) ผู้ว่าจ้างตกลงที่จะจ่ายค่าจ้างในการเขียนแบบแปลนดังกล่าวให้แก่ผู้รับจ้างในวันที่ได้รับมอบแบบแปลนทันทีในจำนวนเงิน….…………………บาท (….…………………….………………..……)
(5) ….…………………….…………………….…………………….…………………………..
ทุกฝ่ายในสัญญานี้ได้อ่านและเข้าใจข้อความทั้งหมดนี้ดีแล้ว จึงลงชื่อเป็นหลักฐานต่อหน้ากันและต่อหน้าพยานทุกคนด้วย


ลงชื่อ………………………………….ผู้ว่าจ้าง ลงชื่อ……………………………………..พยาน
(………………………………….) (……………………………………..)

ลงชื่อ………………………………….ผู้รับจ้าง ลงชื่อ……………………………………..พยาน/
(………………………………….) (……………………………………..)เขียน/พิมพ์
BK
 

สัญญาจ้างทำการก่อสร้าง

โพสต์โดย BK เมื่อ พุธ 15 ก.ค. 2009 2:49 pm

สัญญาจ้างทำการก่อสร้าง

สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นที่………………………………….. เมื่อวันที่…………………………………
ระหว่าง………………………………อายุ…………ปี ถือบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่……………………
ออกให้ ณ ………………………………..เมื่อวันที่……………………………อยู่บ้านเลขที่…………………
ถนน………………………… แขวง……………………………… เขต……………………………………….
กรุงเทพมหานคร ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า "ผู้ว่าจ้าง" ฝ่ายหนึ่ง กับ………………………………………..
………………………………ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า "ผู้รับจ้าง" อีกฝ่ายหนึ่ง คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลง
ทำสัญญานี้ขึ้น โดยมีเงื่อนไขรายละเอียดดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้ว่าจ้างตกลงจ้างและผู้รับจ้างตกลงรับจ้างทำการก่อสร้างอาคารตึกพักอาศัยชั้นเดียวหนึ่งหลัง
และที่จอดรถหนึ่งหลัง โดยผู้รับจ้างตกลงยินยอมปฏิบัติตามเอกสารที่แนบท้ายสัญญานี้ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่ง
ของสัญญานี้ด้วย คือ แบบแปลนแผนผังและหนังสืออนุญาตให้ปลูกสร้างอาคารที่……………………………
ออกให้โดยที่ว่าการเขต………………………… อนุญาตให้ผู้ว่าจ้างเมื่อวันที่…………………………………..
ข้อ 2. ผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายค่าจ้างให้แก่ผู้ว่าจ้างเป็นเงิน…………..บาท (………………………………)
โดยผู้รับจ้างตกลงว่าค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการก่อสร้างตามสัญญานี้รวมทั้งค่าอุปกรณ์ ค่าแรงงาน ค่าสัมภาระ
ต่าง ๆ ผู้รับจ้างเป็นฝ่ายออกเองและจัดหามาแต่เพียงฝ่ายเดียว
ข้อ 3. ผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายค่าจ้าง โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดค่าจ้างจำนวนดังกล่าวใน ข้อ 2. ให้แก่
ผู้รับจ้าง ตามกำหนดระยะเวลาดังนี้
3.1 จ่าย 10 เปอร์เซ็นต์ ในวันทำสัญญานี้
3.2 จ่าย 20 เปอร์เซ็นต์ ในวันที่………………………………………………………………..
3.3 จ่าย 20 เปอร์เซ็นต์ ในวันที่………………………………………………………………..
3.4 จ่าย 20 เปอร์เซ็นต์ ในวันที่………………………………………………………………..
3.5 จ่าย 20 เปอร์เซ็นต์ ในวันที่………………………………………………………………..
3.6 จ่าย 20 เปอร์เซ็นต์ ในวันที่………………………………………………………………..
ข้อ 4. ผู้รับจ้างให้สัญญาว่าจะทำการก่อสร้างตามสัญญานี้ให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่………………
………………………………………
ข้อ 5. ภายในหกเดือนนับจากวันที่ผู้ว่าจ้างได้รับมอบงานการก่อสร้างตามสัญญานี้จากผู้รับจ้าง
ไม่ว่าเพราะเหตุใด ๆ หากปรากฏว่า มีความชำรุดบกพร่องเสียหายเกิดขึ้นกับงานการก่อสร้างที่ผู้ว่าจ้างได้รับ
มอบงานมานั้น ผู้รับจ้างตกลงว่าจะทำการแก้ไขซ่อมแซมให้เรียบร้อยในทันทีที่ผู้ว่าจ้างให้ทราบ โดยผู้รับจ้าง
ไม่ขอคิดค่าจ้าง ค่าแรงงาน ค่าสัมภาระสิ่งของ หรือค่าตอบแทนใด ๆ จากผู้รับจ้างไม่ทำการให้เรียบร้อยภายใน
เจ็ดวัน นับจากวันที่ผู้ว่าจ้างแจ้งให้ทราบ ผู้ว่าจ้างมีสิทธิจ้างผู้อื่นมาทำการแทนได้ โดยผู้รับจ้างยินยอมจ่ายค่า
ใช้จ่ายแทนผู้ว่าจ้างจนครบจำนวน
ข้อ 6. ผู้รับจ้างยอมรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุหรือภยันตรายหรือความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้น
เนื่องจากงานจ้างหรือเกี่ยวพันกับงานตามสัญญานี้ และยอมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สิน
ของผู้ว่าจ้าง โดยผู้รับจ้างยอมให้ผู้ว่าจ้างหักเงินค่าเสียหายออกจากค่าจ้างในข้อ 2. ได้ทันที โดยไม่มีข้อโต้แย้ง
ใด ๆ ทั้งสิ้น
ข้อ 7. ถ้าปรากฏว่าผู้รับจ้างทำการผิดสัญญานี้ข้อหนึ่งข้อใดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดก็ดี หรือทำการ
ชักชวนจนผู้ว่าจ้างเห็นว่าผู้รับจ้างจะทำการให้แล้วเสร็จไม่ทันเวลาตามที่กำหนดไว้ในสัญญานี้ก็ดี ผู้ว่าจ้าง
มีสิทธิเลิกสัญญานี้ได้ทันทีโดยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือจ่ายค่าตอบแทนอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ผู้รับจ้าง
และผู้ว่าจ้างไม่ต้องจ่ายเงินค่าจ้างหรือค่าวัสดุใด ๆ ให้แก่ผู้รับจ้างอีกด้วย โดยผู้รับจ้างยินยอมให้วัสดุและ
สัมภาระตลอดจนทรัพย์สินอื่น ๆ ของผู้รับจ้างที่มีอยู่ในการก่อสร้างตามสัญญานี้ ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ
ผู้ว่าจ้างทั้งสิ้น ในทันทีที่ผู้ว่าจ้างเลิกสัญญา
ข้อ 8. เมื่อการก่อสร้างตามสัญญานี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้รับจ้างจะต้องขนย้ายสัมภาระและสิ่งของ
เครื่องมือเครื่องใช้ในการก่อสร้าง รวมทั้งทำความสะอาดในสถานที่ที่ทำการก่อสร้างให้เรียบร้อยภายใน
เจ็ดวัน นับจากวันที่ผู้ว่าจ้างได้รับมอบงานจากผู้รับจ้าง มิฉะนั้นผู้ว่าจ้างมีสิทธิจ้างผู้อื่นมาขนย้ายออกไปและ
เรียกเก็บค่าใช้จ่ายค่าเสียหายจากผู้รับจ้างได้
สัญญานี้ทำขึ้นไว้เป็นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเข้าใจข้อความ
แห่งสัญญานี้ดีโดยตลอดแล้ว เห็นว่าถูกต้องตรงตามเจตนารมณ์แห่งตน จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน
ต่อหน้าพยาน และต่างยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ


ลงลายมือชื่อ……………………………………….ผู้ว่าจ้าง
(…………………………………………….)

ลงลายมือชื่อ……………………………………….ผู้รับจ้าง
(…………………………………………….)

ลงลายมือชื่อ……………………………………….พยาน
(…………………………………………….)

ลงลายมือชื่อ……………………………………….พยาน
(…………………………………………….)
BK
 

สัญญาจ้างบริหารงานก่อสร้าง

โพสต์โดย BK เมื่อ พุธ 15 ก.ค. 2009 2:50 pm

สัญญาจ้างบริหารงานก่อสร้าง
โครงการ………………………………….

หนังสือสัญญาฉบับนี้ทำขึ้นเมื่อวันที่…………เดือน……………………………. พ.ศ………………..
ณ …………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………….
ระหว่าง…………………………………………………….. โดย………………………………………………..
ตรอก/ซอย………………………………… แขวง………………………………… เขต………………………...
จังหวัด…………………………………….. ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า ผู้ว่าจ้าง ฝ่ายหนึ่ง
กับ……………………………………. โดย…………………..………………… กรรมการผู้มีอำนาจ
สำนักงานตั้งอยู่เลขที่…………………………………………. ถนน…………………………………………….
ตรอก/ซอย………………………………… แขวง………………………………. เขต………………………….
จังหวัด………………………………….. ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า ผู้รับจ้าง อีกฝ่ายหนึ่ง คู่สัญญาทั้งสองฝ่าย
ตกลงกันทำสัญญาบริหารงานก่อสร้าง ดังมีข้อความต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้ว่าจ้างตกลงจ้าง และผู้รับจ้างตกลงรับจ้างบริหารงานก่อสร้าง โครงการ……………………..
ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดิน โฉนดเลขที่……………………………………. เลขที่ดิน…………………………………...
ตำบล…………………………… อำเภอ………………………………… จังหวัด………………………………
ซึ่งโครงการ………………………………………………….. ตั้งอยู่เลขที่……………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
ตามที่ได้แสดงไว้ในเอกสารขอบเขตความรับผิดชอบ และแนวทางปฏิบัติการบริหารงานท้ายสัญญานี้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ด้วย
ข้อ 2. ผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างตกลงกันว่าขอบเขตความรับผิดชอบตามสัญญานี้ไม่รวมถึงการ………….
………………………………………….
ข้อ 3. ผู้รับจ้างสัญญาว่าจะทำงานนี้ให้แล้วเสร็จภายใน กำหนด……………วัน/เดือน โดยเริ่มลงมือ
ทำงานนี้ ตั้งแต่วันที่……………………เดือน………………………………………… พ.ศ…………………….
จนกระทั่งโครงการนี้แล้วเสร็จ ยกเว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
ผู้รับจ้างให้สัญญาว่าจะทำรายงานเสนอผลงานของแต่ละเดือนให้ผู้ว่าจ้างได้ทราบ ตลอดระยะเวลา
การทำงานนี้
ข้อ 4. สัญญาจ้างนี้มีเอกสารประกอบ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญานี้ด้วย
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….

ข้อ 5. ผู้ว่าจ้างตกลงจะให้ค่าจ้างแก่ผู้รับจ้างในการที่ได้ปฏิบัติงานตามสัญญานี้ โดยชำระเป็นรายเดือน ๆ ละ………… บาท (…………………………………) เป็นระยะเวลา……….. เดือน หรือจนกว่าจะแล้ว
เสร็จ ซึ่งผู้ว่าจ้างจะชำระนับแต่วันเริ่มทำงานนี้และในเดือนต่อ ๆ ไปทุก ๆ วันสิ้นเดือน
ผู้รับจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างหักภาษีไว้ ณ ที่จ่ายได้
ข้อ 6. ผู้รับจ้างให้สัญญาว่า จะใช้ความรู้ ความสามารถในการปฏิบัติงานนี้ ด้วยความซื่อสัตว์ สุจริต
ทั้งนี้เพื่อให้โครงการนี้สำเร็จ โดยให้ผู้ว่าจ้างต้องเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด
ในกรณีที่ผู้รับจ้างหรือบุคลากรของผู้รับจ้างมิได้กระทำการในหน้าที่ขอบเขตความรับผิดชอบและ
แนวทางการบริหารการก่อสร้างหรือกระทำการอื่นใด อันเป็นการจูงใจหรือประมาทเลินเล่อ จนเป็นเหตุให้
ผู้ว่าจ้างหรือบุคคลภายนอก ได้รับความเสียหายผู้รับจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญานี้ได้ทันที และยินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้ว่าจ้างและบุคคลภายนอก
ข้อ 7. ผู้รับจ้างสัญญาว่าในระหว่างทำการก่อสร้างทุก ๆ วัน จะมาปฏิบัติงานทำงานเป็นประจำ ณ
สถานที่ก่อสร้าง
(1) ประสานงานกับที่ปรึกษาโครงการตามที่ผู้ว่าจ้างแต่งตั้ง
(2) จัดหาสถาปนิก วิศวกร ผู้ช่วย เข้ามาประจำที่หน่วยงานเพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตาม
กำหนดไว้ในแบบแปลน
(3) จัดให้มีการประชุมประสานงานผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยการออกหนังสือเชิญประชุม โดยเชิญ
ผู้ออกแบบ ผู้รับจ้าง ผู้รับเหมา ช่างทุกประเภท
(4) จัดทำบันทึกผลของการทำงานของผู้รับเหมาทุกประเภทและสรุปผลงาน จัดส่งให้ผู้ว่าจ้าง
เป็นระยะเวลา…………วัน
(5) จัดทำเอกสารวิเคราะห์ปัญหาต่าง ๆ ด้านเทคนิควิธีการขั้นตอนเกี่ยวกับปัญหาก่อสร้าง
รวมทั้งการจัดทำแผนงานเพื่อควบคุมการก่อสร้างและระยะเวลาการทำงานของผู้รับเหมาต่าง ๆ
(6) พิจารณาตรวจสอบคุณภาพของวัสดุที่นำมาก่อสร้างให้ถูกต้องตามแบบและทำบันทึกเสนอ
ความเห็น แจ้งให้ผู้รับจ้างทราบเพื่อแก้ไขตรวจเช็คผลงานของผู้รับเหมา
(7) จัดทำเอกสาร แบบฟอร์ม และปรับปรุงแบบฟอร์มต่าง ๆ เช่น กำหนดเอกสารนำเสนอ
การเสนอตัวอย่างวัสดุและรายละเอียด รวบรวมเอกสารเพื่อแสดงให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ
(8) ควบคุมการทำงานของผู้รับเหมารายย่อย
(9) ทำบัญชีรายการที่ต้องปฏิบัติ
(10) อื่น ๆ ………………………………………………………………………………………...
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….



ข้อ 8. ถ้าผู้ว่าจ้างได้บอกเลิกสัญญาแล้ว ผู้รับจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างดำเนินการได้ดังนี้
- ยินยอมให้ผู้ว่าจ้างเรียกบุคคลอื่นมาทำงานที่ว่าจ้างจนแล้วเสร็จ
- เมื่อผู้ว่าจ้างต้องจ้างบุคคลอื่นมาทำงานแทนโดยยินยอมให้ผู้ว่าจ้างเรียก
ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นเพราะการจ้างจนกว่างานจะแล้วเสร็จบริบูรณ์
- ผู้รับจ้างยินยอมให้ผู้ว่าจ้างเรียกค่าเสียหายอันพึงมีจากผู้รับจ้าง
สำหรับในกรณีที่ผู้ว่าจ้างผิดสัญญาไม่ชำระค่าจ้าง ผู้รับจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญานี้ได้
อื่น ๆ ……………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………….
สัญญาฉบับนี้ได้ทำขึ้นเป็น…………………ฉบับ มีข้อความตรงกัน ซึ่งคู่สัญญาได้อ่านเห็นว่าถูกต้อง
ตามความประสงค์แล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญไว้ต่อหน้าพยาน


ลงชื่อ ……………………………………………… ผู้ว่าจ้าง
(………………………………………………)

ลงชื่อ ……………………………………………… ผู้รับจ้าง
(………………………………………………)

ลงชื่อ ……………………………………………… พยาน
(………………………………………………)

ลงชื่อ ……………………………………………… พยาน
(………………………………………………)
BK
 

สัญญาจำนอง

โพสต์โดย BK เมื่อ พุธ 15 ก.ค. 2009 2:51 pm

สัญญาจำนอง
ที่……………………………
วันที่………เดือน……………พ.ศ…………….
สัญญานี้ทำขึ้นระหว่าง……………………………….………อายุ……....ปี อยู่บ้านเลขที่………….
ตรอก/ซอย…………….………..ถนน……………………………ตำบล/แขวง………………………………
อำเภอ/เขต……………………………….จังหวัด……………………………….ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้รับจำนำ” กับ ……………………………………………...……..อายุ……....ปี อยู่บ้านเลขที่………….
ตรอก/ซอย…………….………..ถนน……………………………ตำบล/แขวง………………………………
อำเภอ/เขต…………………………….จังหวัด……………………………ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้จำนอง”
ผู้จำนองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์สังหาริมทรัพย์ประเภท…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ทรัพย์สิน”
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันดังมีข้อความต่อไปนี้


ข้อ 1. ผู้จำนำตกลงจำนองและผู้รับจำนองตกลงรับจำนองทรัพย์สินเพื่อเป็นการประกันหนี้ ………..
…………………………ตามหนังสือสัญญาฉบับลงวันที่…………ระหว่าง…………………………………
กับ………………………………… จำนวนเงิน……………….บาท (……………………………………)
พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ……………….ต่อปี
ข้อ 2. ผู้จำนำได้รับเงินและ/หรือลูกหนี้ตามสัญญาในข้อ 1. ได้รับเงินจำนวน………………..….บาท
(………………………………………..)จากผู้รับจำนองไปเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ทำสัญญาฉบับนี้
ข้อ 3. เอกสิทธิ์ในทรัพย์สินที่จำนอง ผู้จำนองได้มอบให้แก่ผู้รับจำนำยึดถือไว้ตลอดอายุสัญญาฉบับนี้
ข้อ 4. ผู้จำนองและผู้รับจำนองตกลงว่าจะไปดำเนินการจดทะเบียนสิทธิเกี่ยวกับการจำนองทรัพย์สิน ณ สำนักงานที่ดิน อำเภอ/เขต………………….……….จังหวัด…………………………….ในวันที่………..
โดยผู้จำนองจะเป็นผู้รับภาระในค่าธรรมเนียม ค่าอากรแสตมป์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ทางราชการเรียกเก็บเองทั้งหมด


ข้อ 5. หากลูกหนี้ตามสัญญาในข้อ 1. ผิดนัดผิดสัญญา ผู้รับจำนำสามารถบังคับจำนองเอากับทรัพย์สินที่จำนองของผู้จำนำได้ทันทีโดยมิต้องบอกกล่าว และผู้จำนองต้องรับผิดในมูลหนี้ของลูกหนี้ตามข้อ 1. อย่างลูกหนี้ร่วมด้วย


สัญญานี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านและเข้าใจดีแล้วจึงลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานเป็นสำคัญ และเก็บสัญญาไว้ฝ่ายละฉบับ


ลงชื่อ……………………..….…….ผู้รับจำนอง ลงชื่อ……………………..….…….ผู้จำนอง
(………………………………….) (………………………………….)

ลงชื่อ……………………..….…….พยาน ลงชื่อ……………………..….…….พยาน
(………………………………….) (………………………………….)
BK
 

สัญญาจำนองที่ดิน

โพสต์โดย BK เมื่อ พุธ 15 ก.ค. 2009 2:52 pm

สัญญาจำนองที่ดิน

(แนบท้ายหนังสือสัญญาฉบับลงวันที่……………………………….)
ที่ดิน ระวาง…………………………………………ตำบล………………………………………
เลขที่ดิน………………………………………….อำเภอ…………………………………..
หน้าสำรวจ…………………………………………..จังหวัด………………………………
โฉนดที่…………………………………..เนื้อที่………..ไร่……………งาน……………...
สัญญาฉบับนี้ทำเมื่อวันที่……….เดือน……………….พุทธศักราช………………
ณ หอทะเบียนที่ดินจังหวัด……………………………….ระหว่าง………………………………….
(โดย…………………………………………..) อายุ……………..ปี เชื้อชาติ……………………..
สัญชาติ……………………. เป็นบุตร………………………………………………………………
อยู่บ้านเลขที่…………………….ถนน………………………….ตำบล…………………………….
อำเภอ……………………………จังหวัด……………………… (โดย……………………………...
ผู้รับมอบอำนาจ ตามหนังสือมอบอำนาจลงวันที่…………………………………..) ซึ่งต่อไป ในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้จำนอง” ฝ่ายหนึ่ง กับบริษัท………………………………..………………จำกัด
…………………………………….กรุงเทพมหานคร (โดย…………………………………………
ผู้รับมอบอำนาจ ตามหนังสือมอบอำนาจลงวันที่…………………………………..) ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้รับจำนอง” อีกฝ่ายหนึ่ง
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันดังต่อไปนี้ :-
ข้อ 1.ผู้จำนองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน โฉนดเลขที่………………………………..ดังกล่าวข้างต้น (ต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ที่ดินดังกล่าว”) ผู้จำนองตกลงจำนองกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวรวมถึงสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่แล้วบนที่ดินดังกล่าวในขณะนี้หรือที่จะปลูกสร้างขึ้นใหม่ต่อไปในภายหน้าบนที่ดินดังกล่าวทั้งสิ้น (ต่อไปในสัญญานี้รวมกันเรียกว่า “ทรัพย์ที่จำนอง” ) ไว้กับผู้รับจำนอง เพื่อเป็นประกันหนี้เงินกู้ หนี้จากการซื้อขายลดเช็ค หนี้ตามตั๋วเงิน หรือหนี้ตามนิติดรรมและสัญญาใด ๆ ทั้งปวงซึ่งจำนอง และ/หรือ……………………………………………………………..
………………………………….ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ลูกหนี้” เป็นหนี้ผู้รับจำนองอยู่ในเวลานี้ หรือที่จะเป็นหนี้ต่อไปในภายหน้า ภายในวงเงินไม่เกิน…………….…………………บาท
(…………………………………………..)รวมทั้งอุปกรณ์แห่งหนี้นั้น เช่น ค่าดอกเบี้ย ค่าสินไหมทดแทนในการไม่ชำระหนี้ ค่าใช้จ่าย ค่าทนาย ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงในการบังคับจำนองหรือในการฟ้องร้องบังคับให้ชำระหนี้
การจำนองนี้ให้มีผลใช้บังคับได้ตลอดไปโดยจะไม่มีการยกเลิก เพิกถอน หรือไถ่ถอนจนกว่าผู้รับจำนองจะได้รับชำระหนี้พร้อมทั้งอุปกรณ์แห่งหนี้ทั้งปวงจากผู้จำนอง และ/หรือลูกหนี้โดยครบถ้วนเรียบร้อยและได้ปลดจำนองให้แก่ผู้จำนองโดยทำเป็นหนังสือให้ไว้เป็นสำคัญ
ข้อ 2. ผู้จำนองตกลงจ่ายดอกเบี้ยให้แก่ผู้รับจำนองในอัตราร้อยละ…………………………
(………………………………) ต่อปี ในจำนวนเงินทั้งสิ้นซึ่งลูกหนี้ และ/หรือ ผู้รับจำนองเป็นหนี้ผู้รับจำนองอยู่นั้น เงินดอกเบี้ยนี้จะคิดจากยอดหนี้ประจำวัน ซึ่งปรากฏในบัญชีของผู้รับจำนองและผู้จำนองสัญญาว่าจะชำระดอกเบี้ยให้แก่ผู้รับจำนองตามกำหนดเวลาที่ผู้จำนองและผู้รับจำนองได้ตกลงกันสำหรับหนี้แต่ละรายการ ถ้าผู้จำนอง และ/หรือ ลูกหนี้ผิดนัดชำระดอกเบี้ยที่กล่าวนี้ ผู้จำนองตกลงว่าผู้รับจำนองย่อมมีสิทธิบังคับจำนองได้โดยทันทีตามสัญญา ข้อ 17 อย่างไรก็ดีในกรณีที่ผู้รับจำนองยังมิได้ใช้สิทธิของตนในการบังคับจำนองตามสัญญาข้อ 17 หรือให้สิทธินั้นแล้วและผู้จำนองและ/หรือ ลูกหนี้ค้างชำระดอกเบี้ยนั้นเกินกว่าปีหนึ่งผู้จำนองตกลงให้ผู้รับจำนองเอาดอกเบี้ยที่ค้างชำระนั้นทบต้นเงินแล้วให้คิดดอกเบี้ยในจำนวนเงินที่ทบเข้ากันนั้นได้
ข้อ 3. การชำระเงินต้นและดอกเบี้ยหรือเงินใด ๆ ให้แก่ผู้รับจำนองนั้นให้ชำระ ณ สำนักงานของผู้รับจำนองดังระบุไว้ข้างต้น หรือ ณ สถานที่อื่นใดที่ผู้รับจำนองจะได้กำหนดและแจ้งให้ทราบ และให้ชำระในระหว่างวันและเวลาทำงานตามปกติของผู้รับจำนอง
ข้อ 4. ในระหว่างการจำนองตามสัญญานี้ ถ้าผู้รับจำนองเห็นว่าทรัพย์ที่จำนองมีราคาตกต่ำไปกว่าราคาในขณะที่ทำจำนอง ผู้รับจำนองมีสิทธิเรียกให้ผู้จำนองนำทรัพย์สินอื่นมาจำนอง และ/หรือจำนองเพิ่มเติม เพื่อให้เพียงพอกับจำนวนเงินที่ผู้จำนองและ/หรือลูกหนี้เป็นหนี้ผู้รับจำนอง ผู้จำนองสัญญาว่าจะต้องจัดหาทรัพย์สินอื่นมาจำนองและ/หรือจำนำเพิ่มเติมให้เพียงพอกับจำนวนเงินที่ผู้จำนอง และ/หรือลูกหนี้เป็นหนี้อยู่โดยทันที ถ้าผู้จำนองไม่ยอมปฏิบัติหรือไม่สามารถปฏิบัติตามที่ผู้รับจำนองเรียกร้องนี้ได้ภายในสามสิบ (30) วัน นับแต่วันที่ผู้รับจำนองได้ส่งคำบอกกล่าวแจ้งการเรียกร้องให้แก่ผู้จำนองผู้รับจำนองมีสิทธิจะเรียกให้ผู้จำนองชำระหนี้และบังคับจำนองได้ทันที
ข้อ 5. ถ้าทรัพย์ที่จำนองนี้บุบสลาย เสียหาย พังทลาย หรือต้องประสบภยันตรายใด ๆ ซึ่งเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสื่อมราคา ไม่เพียงพอแก่การประกันหนี้ของผู้จำนอง และ/หรือ ลูกหนี้ เมื่อได้รับคำบอกกล่าวจากผู้รับจำนอง ผู้จำนองจะต้องจัดหาทรัพย์สินอื่นที่มีราคาเพียงพอมาจำนอง และ/หรือจำนำเพิ่มเติมให้เพียงพอกับจำนวนหนี้ดังกล่าว ถ้าผู้จำนองบิดพลิ้วไม่ยอมปฏิบัติ หรือไม่สามารถได้ภายในสามสิบ (30) วัน นับแต่วันที่ผู้รับจำนองได้ส่งคำบอกกล่าวให้แก่ผู้จำนอง ผู้รับจำนองมีสิทธิจะเรียกร้องให้ผู้จำนองชำระหนี้และบังคับจำนองได้ทันที



ข้อ 6. เมื่อมีการบังคับจำนองเอาทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดได้เงินจำนวนสุทธิน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระอยู่กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังได้กล่าวแล้วนั้นหรือเมื่อผู้รับจำนองเอาทรัพย์ที่จำนองหลุดเป็นสิทธิแต่ปรากฏว่าราคาทรัพย์ที่จำนองนี้ต่ำกว่าจำนวนเงินที่ค้างชะระกับค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว เงินยังขาดจำนวนอยู่เท่าใด ผู้จำนองยอมรับผิดใช้เงินที่ขาดให้แก่ผู้รับจำนองจนครบ
ข้อ 7. ถ้าภายหลังที่ผู้รับจำนองเอาทรัพย์ที่จำนองหลุดเป็นสิทธิ ปรากฏว่ามีหนี้เงินภาษีอาการหรือค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับทรัพย์ที่จำนองนี้ยังค้างชำระอยู่ในวันที่เอาทรัพย์ที่จำนองหลุดเป็นสิทธินั้นมากน้อยเท่าใด และผู้รับจำนองต้องรับผิดใช้เงินค่าภาษีอาการหรือค่าธรรมเนียมนั้น ๆ แล้ว ผู้จำนองยินยอมรับผิดชดใช้เงินค่าภาษีอากรหรือค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้จำนองรวมทั้งเงินอื่น ๆ ที่ผู้รับจำนองต้องเสียไปนั้นโดยครบถ้วนโดยทันที
ข้อ 8. ผู้จำนองสัญญาว่าจะดูแลรักษาซ่อมแซมบ้าน โรงเรือน และสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วในที่ดินดังกล่าว หรือที่จะปลูกสร้างขึ้นต่อไปภายหน้า ให้อยู่ในสภาพที่ดีตลอดเวลาที่จำนองไว้กับผู้รับจำนอง โดยผู้จำนองเป็นผู้ออกค่ารักษาและค่าซ่อมแซมเอง และผู้จำนองสัญญาว่าจะเป็นผู้ชำระบรรดาภาษีบำรุงท้องที่ ภาษีโรงเรือน และภาษีหรือเงินอื่น ๆ ทั้งปวง อันต้องชำระตามกฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์ที่จำนองนี้ ภายในที่กฎหมายกำหนด
ข้อ 9. ผู้จำนองต้องนำทรัพย์ที่จำนองนั้นทำการประกันภัยไว้กับบริษัทประกันภัยซึ่งผู้รับจำนองเห็นชอบด้วยในมูลประกันเท่ากับจำนวนเงินแห่งการจำนองนี้ และต้องจัดให้การประกันภัยนั้นมีผลใช้บังคับตลอดระยะเวลาแห่งการจำนองนี้ โดยผู้จำนองเป็นผู้เสียค่าเบี้ยประกันภัยเอง และต้องระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยว่า “ประกันไว้เพื่อประโยชน์ของผู้รับจำนอง” และต้องส่งมอบกรมธรรม์นั้นให้ผู้รับจำนองเก็บรักษาไว้
ในกรณีที่ผู้จำนองไม่เอาประกัน หรือไม่ต่ออายุการประกันภัยในทรัพย์ที่จำนองผู้รับจำนองอาจเข้าจ่ายเงินเบี้ยประกันเพื่อการเอาประกันภัย และ/หรือเพื่อการต่ออายุประกันภัยนั้นก็ได้ แต่ทั้งนี้โดยไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิของผู้รับจำนองในอันที่จะถือว่าผู้ว่าจำนองผิดสัญญาจำนองนี้ และบังคับจำนองโดยทันที
เงินที่ผู้รับจำนองได้จ่ายไปเป็นค่าเบี้ยประกันดังกล่าวข้างต้นนี้ ผู้จำนองต้องชดใช้ให้แก่ผู้รับจำนองจนเต็มจำนวนโดยทันที และให้ถือว่าการจำนองตามสัญญานี้เป็นการประกันการชำระหนี้ที่ผู้จำนองที่รับชำระให้แก่ผู้รับจำนองในกรณีด้วย
ข้อ 10. ผู้จำนองรับว่า ทรัพย์ที่จำนองนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของตนโดยสมบูรณ์และไม่มีภาระจำยอม สิทธิ ทรัพย์สิน ภาระผูกพันหรือภาระติดพันใด ๆ เหนือทรัพย์ที่จำนองนี้ทั้งรับรองและสัญญาว่านับแต่วันทำสัญญาจำนองนี้เป็นต้นไป จะไม่ก่อให้เกิดหรือยอมให้เกิดสิทธิใด ๆ แก่ผู้อื่นในทรัพย์ที่จำนองนี้เช่น การให้เช่า ให้อาศัย ให้ใช้ ก่อให้เกิดภาระจำยอมหรือภาระผูกพันใด ๆ เหนือทรัพย์ที่จำนอง อันเป็นเหตุให้เสื่อมสิทธิ ลบสิทธิ รอนสิทธิ ทอนสิทธิ และเสียสิทธิ ของผู้รับที่จำนองนี้หรือทำการใด ๆ อันจะเป็นผลให้ทรัพย์ที่จำนองนี้เสื่อมราคาลง เว้นแต่จะได้รับความผิดชอบจากผู้รับจำนองเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน
หากผู้จำนองได้เคยให้สิทธิประการใด ๆ ในทำนองดังกล่าวข้างต้นนี้แก่บุคคลใด ๆ ก่อนวันทำสัญญานี้ ผู้จำนองต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้จำนองได้ทราบทันทีถึงสภาพและลักษณ์ตลอดจนรายละเอียดแห่งการใช้สิทธินั้น ๆ และเมื่อสิทธินั้น ๆ ได้หมดอายุลงผู้จำนองจะต่ออายุหรือต่อสิทธิที่ได้ให้แล้วไปอีกไม่ได้เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้รับจำนองก่อน
สิ่งใด ๆ ซึ่งผู้จำนองได้ให้ไว้กับผู้ใดที่ขัดกับความนี้ย่อมไม่ผูกพันผู้รับจำนองและผู้รับจำนองมีสิทธิเรียกให้ลบล้างสิทธินั้นเสียได้
ข้อ 11. ผู้จำนองสัญญาว่าจะไม่โอนทรัพย์ที่จำนองนี้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้รับจำนองก่อน
ข้อ 12. ค่าธรรมเนียม ค่าอากรแสตมป์ และค่าใช้จ่ายทั้งหลาย ในการทำสัญญาและการจดทะเบียนจำนอง การไถ่ถอนจำนอง ตลอดจนค่าธรรมเนียม ค่าฤชาธรรมเนียม ค่าทนายและค่าใช้จ่ายในการบังคับจำนอง ผู้จำนองเป็นผู้ต้องออกทั้งสิ้น
ข้อ 13. ในกรณีที่ผู้จำนองทรัพย์ที่จำนองนี้เพื่อประกันการชำระหนี้ของลูกหนี้ผู้จำนองตกลง และสัญญาว่า:-
13.1 เมื่อลูกหนี้ผิดนัด ผู้รับจำนองบังคับจำนองได้ทันที โดยไม่ต้องเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ก่อน และโดยไม่ต้องบังคับชำระหนี้เอาจากทรัพย์สิน
13.2 ผู้จำนองรับผิดต่อผู้รับจำนองร่วมกับลูกหนี้อย่างลูกหนี้ร่วมและยอมสละข้อต่อสู้ทั้งมวลอันจะพึงมีในฐานะผู้ค้ำประกันต่อผู้รับจำนอง
13.3. หากผู้รับจำนองยอมผ่อนเวลาการชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ให้ถือว่าผู้จำนองให้ความยินยอมในการผ่อนเวลานั้นด้วยทุกครั้ง และผู้จำนองไม่ยกข้อผ่อนผันเวลานี้เป็นข้อต่อสู้เพื่อปลดเปลื้องความรับผิดชอบของตนโดยเด็ดขาด
13.4 ผู้จำนองไม่หลุดพ้นความรับผิดในกรณีที่ผู้รับจำนองหากได้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นเหตุให้ผู้จำนองไม่อาจเข้ารับช่วงได้ทั้งหมด หรือแม้แต่บางส่วนในสิทธิจำนอง จำนำ และบุริมสิทธิอันได้ให้ไว้แก่ผู้รับจำนองแต่ก่อน หรือในขณะทำสัญญาจำนองเพื่อการชำระหนี้นั้น
ข้อ 14. ผู้จำนองสัญญาว่าถ้าผู้จำนองย้ายที่อยู่ไปจากตำบลที่อยู่ดังที่ได้ระบุไว้ข้างต้นตามสัญญานี้ ผู้จำนองต้องแจ้งให้ผู้รับจำนองทราบเป็นลายลักษณ์อักษรภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้ย้าย
ข้อ 15. ผู้จำนองรับรองว่า คู่สมรสของผู้จำนอง (หากมี) ได้ทราบและตกลงด้วยในการที่ผู้จำนองทำสัญญานี้กับผู้รับจำนอง
ข้อ 16. คำบอกกล่าว หนังสือติดต่อใด ๆ ที่ผู้รับจำนองส่งไปยังผู้จำนองโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ณ ตำบลที่อยู่ระบุไว้ข้างต้น หรือ ณ ตำบลที่อยู่ใหม่ ซึ่งผู้จำนองได้แจ้งให้ผู้รับจำนองได้ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรตามข้อ 14. ให้ถือว่าเป็นการส่งโดยชอบและถือว่าผู้จำนองได้รับคำบอกกล่าว และ/ หรือ หนังสือติดต่อนั้นโดยชอบแล้ว
ข้อ 17. ถ้าผู้จำนอง และ/หรือ ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยครั้งใดครั้งหนึ่ง หรือผิดสัญญาที่ได้ทำไว้กับผู้รับจำนองข้อใดข้อหนึ่ง หรือผู้จำนองผิดสัญญาจำนองนี้ข้อใดข้อหนึ่งผู้จำนองตกลงให้หนี้ทั้งหลายซึ่งผู้จำนอง และ/หรือ ลูกหนี้เป็นหนี้ผู้รับจำนองอยู่ในขณะนั้นทั้งหมดเป็นอันถึงกำหนดต้องชำระคืนผู้รับจำนองโดยทันที และผู้รับจำนองมีสิทธิบังคับจำนองได้ทันที
ข้อ 18. ผู้จำนองตกลงให้ผู้รับจำนองยึดถือโฉนดที่ดินเลขที่………………………………...
สำหรับที่ดินดังกล่าวไว้ได้ตลอดเวลาที่ที่ดินดังกล่าวยังคงจำนองอยู่กับผู้รับจำนอง
ข้อ 19. ข้อกำหนดในเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญานี้ให้มีผลผูกพันบรรดาทายาทผู้สืบสิทธิ ผู้จัดการมรดก ผู้มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของผู้จำนองโดยสมบูรณ์ทุกประการ
ข้อ 20. หากข้อกำหนด และ/หรือ เงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งของสัญญานี้เป็นโมฆะ หรือไม่สมบูรณ์ ให้ข้อกำหนดและเงื่อนไขข้ออื่น ๆ ยังคงมีผลสมบูรณ์ใช้บังคับคู่สัญญาได้ต่อไปโดยแยกต่างหากจากส่วนที่เป็นโมฆะ หรือไม่สมบูรณ์นั้น
คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายได้อ่านได้เข้าใจข้อความในสัญญาโดยตลอดแล้ว จึงได้ลงชื่อไว้ต่อหน้าพยานข้างท้ายนี้เพื่อเป็นหลักฐานต่อกัน สัญญานี้ทำเป็น…………………………………ฉบับ มีข้อความถูกต้องเป็นอย่างเดียวกัน คู่สัญญาต่างยึดถือไว้ฝ่ายละฉบับ มอบให้หอทะเบียนที่ดิน จังหวัด…
………………….ฉบับ ฉบับนี้สำหรับ……………………………………

ลงนาม…………………………………ผู้รับจำนอง
(……………………………………..)
ลงนาม…………………………………ผู้จำนอง
(……………………………………..)

ลงนาม…………………………………พยาน
(……………………………………..)
ลงนาม…………………………………พยาน
(……………………………………..)
หนังสือสัญญาฉบับนี้ได้ทำต่อหน้าข้าพเจ้า
………………………………………..เจ้าหน้างานที่ดิน
BK
 

สัญญาเช่าซื้อ

โพสต์โดย BK เมื่อ พุธ 15 ก.ค. 2009 2:53 pm

สัญญาเช่าซื้อ

เลขที่…………………………………
สัญญานี้ทำที่……………………………………..เมื่อวันที่…………..เดือน……………………….
พ.ศ. ………………………. ระหว่างบริษัท…………………………………………… จำกัด ผู้ให้เช่าซื่อโดย
…………………………………………………….. ผู้รับมอบอำนาจตามหนังสือมอบอำนาจซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า
"เจ้าของ" ฝ่ายหนึ่ง กับ…………………………………………………..อายุ……………ปี (ภรรยาหรือสามีชื่อ
…………………………………………..) บัตรแสดงตนถือบัตร……………….เลข…………………………..
ลง…………………………… ออกโดย………………………..อยู่บ้านเลขที่…………ซอย……………………
ถนน………………………… ใกล้เคียง………………….. ตำบล………………….. อำเภอ……………………
จังหวัด………………………….. โทร ……………………………อาชีพ………………………….. ซึ่งต่อไปนี้
เรียกว่า "ผู้เช่าซื้อ" อีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญากันดังต่อไปนี้
ข้อ 1. เจ้าของยอมให้เช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อยอมรับเช่าซื้อ และได้รับมอบหมายทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปจาก
ของแล้วในวันทำสัญญานี้ ในสภาพเรียบร้อย ถูกต้องครบถ้วน และได้ตรวจดูเป็นที่พอใจแล้ว คือ
ทรัพย์สินที่เช่าซื้อ…………………………………………………………………………………………………
เลขเครื่องหรือเลขประจำทรัพย์สิน…………………………. รุ่นปี………………… สี…………………………
ซึ่งมีส่วนประกอบมีเครื่องอุปกรณ์ครบและมี…………………………………………………………………….
รวมเป็นเงินค่าเช่าซื้อทั้งสิ้น (ตัวอักษร ………………………….บาท) …………………………………… บาท
ข้อ 2. ผู้เช่าซื้อสัญญาว่าจะชำระค่าเช่าซื้อให้เจ้าของในวันทำสัญญานี้เป็นเงิน……………………….
………………………………..บาท ที่ค้างจะนำเงินไปชำระ ณ สถานที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของเจ้าของตามกำหนด
ต่อไปนี้รวม……………งวด เป็นเงิน…………………………………บาท โดยจะชำระงวดละ……………….
…………………บาท ทุกวันที่……………ของแต่ละเดือน เริ่มตั้งแต่งวดวันที่……..เดือน…………………….
ข้อ 3. การให้คำรับรอง คำมั่น หรือการบอกกล่าวบุคคลใด ๆ เกี่ยวกับอายุ มูลค่า สภาพ เงื่อนไข การ
บริการตอบแทนหรือคุณภาพของทรัพย์สินที่เช่าซื้อ หรือความเหมาะสมใด ๆ หรือข้อตกลงอื่นใดต่างไปจาก
ข้อความในข้อสัญญาเช่าซื้อ ไม่ผูกพันเจ้าของและเจ้าของไม่รับผิดชอบการเช่าซื้อนี้มีขึ้นโดยปราศจากการรับ
ประกันใด ๆ ของเจ้าของ
ข้อ 4. ผู้เช่าซื้อสัญญาว่าจะนำทรัพย์สินไปใช้หรือติดตั้งไว้ ณ ที่……………………………………
……………………………..……….. และจะไม่เอาไปจำหน่าย ให้เช่า ให้ยืม และจะไม่ใช้ในทางผิดกฎหมาย
จะไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือทำให้ลบเลือนซึ่งเลขหมายประจำตัวของทรัพย์สินที่เช่าซื้อ จะใช้สอยทรัพย์สินที่เช่าซื้อตามประเพณีนิยมด้วยความระมัดระวัง จะดูแลเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย จะบำรุงรักษาซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยใช้การได้ดีอยู่เสมอ และยอมให้เจ้าของหรือผู้แทนเข้าตรวจดูได้เสมอ

ข้อ 5. ผู้เช่าซื้อจะต้องออกค่าใช้จ่ายเหล่านี้เพียงอย่างเดียว คือ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการใช้การเก็บ การ
บำรุงรักษา ค่ายาง ค่าเช่าที่เก็บ ค่าไฟฟ้า ค่าธรรมเนียมทุกชนิด ค่าปรับ ค่าซ่อมแซม ความชำรุด ค่าภาษี
อากรใด ๆ รวมทั้งอากรแสตมป์ปิดตราสารนี้หรือตราสารอื่น ๆ เช่น ใบรับเงิน เป็นต้น และผู้เช่าซื้อจะเป็น
ผู้ปิดอากรแสตมป์ในตราสารแล้วขีดฆ่าให้เรียบร้อย
ข้อ 6. ถ้าทรัพย์สินที่เช่าซื้อถูกโจรภัย อัคคีภัย วินาศภัย สูญหาย บุบสลาย ถูกทำลาย ถูกอายัด หรือ
ถูกริบ ไม่ว่าโดยเหตุสุดวิสัยหรือโดยเหตุใด ๆ ผู้เช่าซื้อยอมรับผิดฝ่ายเดียว และจะแจ้งให้เจ้าของทราบทันที
ยอมติดตามฟ้องร้องเอาคืน ยอมซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิม และยอมชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาจนครบหาก
เจ้าของได้ออกเงินเพื่อการดังกล่าว ผู้เช่าซื้อก็ยอมชดใช้จนครบ
ข้อ 7. ในกรณีที่เช่าซื้อยานยนต์ ผู้เช่าซื้อยอมเอาประกันภัยตลอดเวลาที่เช่าซื้อ โดยมอบเบี้ยประกัน
ภัยกับค่าใช้จ่ายในการทำสัญญาให้เจ้าของนำไปทำสัญญาประกันภัยแทนไว้กับบริษัทผู้รับประกันภัย โดยใส่ชื่อ
ผู้เช่าซื้อเป็นผู้ประกันภัย ใส่ชื่อเจ้าของเป็นผู้รับประโยชน์ และไม่ว่าจะเอาประกันภัยชั้นใดประเภทใด จำนวนเงินซึ่งเอาเงินประกันวินาศภัยจะต้องไม่น้อยกว่าจำนวนค่าเช่าซื้อค้างชำระ อนึ่งผู้เช่าซื้อสัญญาว่าหากเจ้าของได้ออกเงินไปเพื่อการดังกล่าว ผู้เช่าซื้อยอมชดใช้จนครบ ระหว่างประกันภัยทรัพย์สินที่เช่าซื้อผู้เช่าซื้อจะปฏิบัติหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยตามข้อความในกรมธรรม์ประกันภัยโดยเคร่งครัด และไม่ว่าผู้รับประกันภัยจะชำระเงินหรือซ่อมให้เพียงใดหรือไม่ ไม่ทำให้ผู้เช่าซื้อพ้นความรับผิดชอบตามสัญญาเช่านี้ และในระหว่างที่ทรัพย์สินที่เช่าซื้ออยู่ในความครอบครองหรือการซ่อมแซมของผู้รับประกันภัยหรือบุคคลภายนอก ผู้เช่าซื้อยังต้อง
รับผิดชอบความเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นต่อเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวมีสิทธิในเงินค่าสินไหมทดแทนจากผู้รับ
ประกันภัย เจ้าของอาจพิจารณาคืนค่าสินไหมทดแทนส่วนที่เหลือ เมื่อหักออกจากค่าเช่าซื้อค่าอื่น ๆ ที่ยังค้าง
ชำระทั้งหมด ทั้งที่ถึงกำหนดชำระแล้วหรือยังไม่ถึงกำหนดชำระให้แก่ผู้เช่าซื้อ แต่ถ้าผู้เช่าซื้อผิดสัญญาเช่าซื้อ
ข้อหนึ่งข้อใด ผู้เช่าซื้อไม่มีสิทธิในเงินค่าเสียหายนี้
ข้อ 8. ถ้าผู้เช่าซื้อทำการดัดแปลง ต่อเติม ทรัพย์สินที่เช่าซื้อ โดยมิได้รับหนังสืออนุญาตจากเจ้าของ
เมื่อเจ้าของเรียกร้องผู้เช่าซื้อยอมทำให้ทรัพย์สินนั้นกลับคืนคงสภาพเดิมและยอมรับผิดชอบในความสูญหาย
เสียหาย บุบสลายอันเกิดแต่การนั้น และไม่ว่าในกรณีใด ๆ หากผู้เช่าซื้อนำสิ่งของเข้ามาดัดแปลงต่อเติม ติดหรือตั้งอยู่ในทรัพย์สินที่เช่าซื้อ สิ่งนั้นจะตกเป็นส่วนหนึ่งของตัวทรัพย์สินที่เช่าซื้อและเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของทันที ไม่ว่าเจ้าของจะเข้ายึดหรือเข้าครอบครองทรัพย์สินที่เช่าซื้อหรือไม่ก็ตาม ถ้าการดัดแปลง ต่อเติม ติดหรือตั้งนั้นเป็นเหตุให้ถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น ผู้เช่าซื้อยอมชำระค่าภาษีนั้นโดยตรงฝ่ายเดียว อนึ่งกรรมสิทธิ์ใน
ทะเบียนทรัพย์สินที่เช่าซื้อ เช่น รถ รถรับจ้าง รถโดยสาร ฯลฯ เป็นของเจ้าของเช่นเดียวกัน และเจ้าของไม่จำต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะการรอนสิทธิหรือความชำรุดบกพร่อง
ข้อ 9. ถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำระหนี้หรือค้างเงินใด ๆ แก่เจ้าของ ผู้เช่าซื้อยอมเสียดอกเบี้ยสำหรับเงิน
ที่ค้างนับแต่วันผิดนัด ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี และยอมเสียค่าติดตามเรียกเก็บแก่เจ้าของอีกด้วย



ข้อ 10. ถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้องวดหนึ่งงวดใดก็ดี กระทำผิดสัญญาอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี
หรือทรัพย์สินที่เช่าซื้อ ถูกอายัด ถูกยึด ถูกริบ ไม่ว่าโดยเหตุใดก็ดี กระทำผิดสัญญาอย่างหนึ่งอย่างใดก็เลิกสัญญากันทันทีโดยเจ้าของไม่ต้องบอกกล่าวก่อน และผู้เช่าซื้อยอมให้เจ้าของริบบรรดาเงินค่าเช่าซื้อที่ได้ชำระแล้วทั้งหมดเป็นของเจ้าของ โดยผู้เช่าซื้อไม่มีสิทธิเรียกร้องคืน และผู้เช่าซื้อยอมส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนแก่เจ้าของโดยพลันในสภาพที่ซ่อมแซมดีแล้วโดยเรียบร้อย โดยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าซื้อเอง ถ้าไม่ส่งมอบคืนก็ให้
ถือว่าครอบครองไว้โดยมิชอบ และยอมให้เจ้าของหรือผู้แทนติดตามเข้าไป ณ ที่ซึ่งทรัพย์สินที่เช่าซื้อนั้นอยู่เพื่อเข้ายึดถือครอบครองเอาคืนไปได้เอง โดยผู้เช่าซื้อยินยอมไม่โต้แย้งขัดขวาง ไม่เรียกร้องค่าเสียหายอย่างใด ๆ
และยอมใช้ค่าใช้จ่าย ค่าพาหนะ ค่าขนส่ง ค่าธรรมเนียม ค่าทนาย ที่เจ้าของต้องเสียไปในการสืบสวน ติดตาม
ยึดถือ ครอบครอง ฟ้องร้อง เอาคืน และซ่อมแซมนั้นแก่เจ้าของจนครบ และผู้เช่าซื้อยอมชำระค่าเช่าซื้อที่ติดค้างหรือใช้ค่าเสียหายที่เจ้าของต้องขาดประโยชน์ที่ควรจะได้จากการเอาทรัพย์สินนั้นให้เช่าในอัตราค่าเช่าตามปกติอย่างหนึ่งอย่างใดตามแต่เจ้าของจะเลือก ทั้งนี้จนกว่าผู้เช่าซื้อจะได้ลงลายมือชื่อทำบันทึกยอมคืนและส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนแก่เจ้าของแล้ว ถ้าวันบันทึกส่งมอบอยู่ระหว่างยังไม่ครบงวดก็ยอมชำระงวดนั้นเต็ม แต่ถ้าเจ้าของได้ขายทรัพย์สินที่เช่าซื้อไปแล้วยังไม่คุ้มราคาค่าเช่าซื้อที่ต้องชำระทั้งหมดตามสัญญานี้กับค่าเสียหาย
อื่น ๆ ที่เกิดขึ้น ผู้เช่าซื้อจะชดใช้ให้เจ้าของจนครบถ้วน


ข้อ 11. ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อผิดนัด ผิดสัญญาหลายครั้งหลายอย่าง ถ้าเจ้าของยอมผ่อนผันการผิดนัด
หรือผิดสัญญาครั้งใด ไม่ถือว่าเป็นการผ่อนผันการผิดนัดหรือผิดสัญญาครั้งอื่นอย่างอื่น




ข้อ 12. สิทธิตามสัญญาเช่าซื้อ เจ้าของมีสิทธิที่จะโอน จำนำ หรือวางเป็นหลักประกันให้กับบุคคลใด ๆ ก็ได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวผู้เช่าซื้อก่อน แต่ผู้เช่าซื้อไม่มีสิทธิเช่นว่านี้











ข้อ 13. ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อจะคืนทรัพย์สินที่เช่าซื้อให้แก่เจ้าของเพื่อเลิกสัญญา ผู้เช่าซื้อจะต้องส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซื้อในสภาพที่เรียบร้อยด้วยค่าใช้จ่ายของผู้เช่าซื้อเองพร้อมทั้งชำระค่างวด ค่าเสียหาย
หนี้สินที่ค้างชำระให้เจ้าของและต้องชำระค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินที่เช่าซื้อเป็นจำนวนหนึ่ง เมื่อรวมกับจำนวนเงินค่าเช่าซื้อที่ชำระไปแล้วจะเท่ากับครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินทั้งหมดที่ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระ หากการเช่าซื้อได้ดำเนินต่อไปตลอดระยะเวลาแห่งสัญญา แต่ความข้อนี้ไม่ตัดสิทธิเจ้าของที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายหรือค่าอื่น ๆ หากมีขึ้นหรือเพิ่มขึ้นแก่เจ้าของ สัญญานี้ทำขึ้นเป็นสองฉบับ มีข้อความตรงกัน คู่สัญญาต่างถือไว้ฝ่ายละฉบับและต่างเข้าใจข้อความดีแล้ว ถูกต้องตรงตามความประสงค์ จึงลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานเป็นหลักฐาน


ลงชื่อ …………………………………….. ผู้เช่าซื้อ
(……………………………………….)

ลงชื่อ …………………………………….. คู่สมรสหรือผู้ปกครองผู้เช่าซื้อยินยอม
(……………………………………….)

ลงชื่อ …………………………………….. พยาน
(……………………………………….)

ลงชื่อ …………………………………….. พยาน
(……………………………………….)

ลงชื่อ …………………………………….. เจ้าของผู้ให้เช่าซื้อ
(……………………………………….)
BK
 

หนังสือสัญญาเช่าบ้าน

โพสต์โดย BK เมื่อ พุธ 15 ก.ค. 2009 2:54 pm

หนังสือสัญญาเช่าบ้าน ฉบับที่……….

สัญญาทำที่……………………………….ณ วันที่………..เดือน……………..พ.ศ………………...
ระหว่าง………………………………………………….……………..ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่าผู้ให้เช่าฝ่ายหนึ่งกับ ……………………………………………………………….ซึ่งต่อไปนี้รียกว่า ผู้เช่า อีกฝ่ายหนึ่ง
ได้ทำสัญญา กันดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ผู้ให้ผู้เช่าตกลงให้เช่า เช่าบ้านเพื่ออยู่อาศัย เลขที่ ……..……………………….ตำบล………………………จังหวัด…………………………มีกำหนดเวลา…………ปี
นับตั้งแต่วันที่ ………….เดือน………………………พ.ศ……………เป็นต้นไป โดยผู้เช่ายอมเสียค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่า เป็นเงินค่าเช่าเดือนละ………………บาท……………สตางค์ (……………………………………………………….. บาท)
ข้อ 2. ผู้ให้เช่าได้รับเงินล่วงหน้าไว้เป็นประกันการเช่าจากผู้เช่าเป็นจำนวนเงิน………….บาท
ข้อ 3. ผู้เช่ายอมชำระค่าเช่าแก่ผู้ให้เช่าภายในวันที่………………………ของเดือนทุกๆ เดือน ถ้าไม่ชำระตามกำหนดนี้ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่ายึดทรัพย์สินของผู้เช่าได้และใส่กุญแจห้องของผู้เช่าก็ได้
ข้อ 4. ค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินผู้…………..เป็นผู้เสีย
ข้อ 5. ผู้เช่ายอมรับรักษาตัวบ้านที่เช่ามิให้ชำรุดทรุดโทรมไปกว่าเดิม ถ้าผู้เช่ามีความประสงค์จะดัดแปลงหรือเพิ่มเติมสิ่งใดลงไปอีก ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนจึงจะทำได้ ถ้าเกิดการเสียหายใดๆ ขึ้นผู้เช่ายอมรับผิดใช้ค่าเสียหายทั้งสิ้น
ข้อ 6. บรรดาสิ่งก่อสร้างหรือซ่อมแซมลงในบริเวณบ้านเช่านี้ เมื่อผู้เช่าออกจากบ้านเช่า ห้าม มิให้รื้อถอนหรือทำลายเป็นอันขาด และสิ่งก่อสร้างซ่อมแซมดังกล่าวแล้วนั้นต้องตกเป็นของผู้ให้เช่าทั้งสิ้นโดยผู้เช่าจะเรียกค่าเสียหายใดๆ ไม่ได้เลย ถ้าเกิดอัคคีภัยแก่ทรัพย์ที่เช่าขึ้น สัญญานี้เป็นอันระงับสิ้นสุดลง
ข้อ 7. ผู้เช่ารับว่าจะไม่ให้ผู้อื่นเช่าช่วงต่อไปอีกทอดหนึ่ง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร และจะไม่ยอมให้ผู้หนึ่งผู้ใดอยู่อาศัยดำเนินกิจการค้าขายหรือรับใช้ในหน้าที่ใดๆ ภายในสถานที่เช่านี้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร และผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนของให้ผู้เช่าเข้าตรวจดูบ้านเช่าได้เสมอ ถ้าผู้เช่าออกไปจากบ้านไม่ว่ากรณีใดผู้เช่าจะเรียกค่าเสียหายหรือค่าขนย้ายจากผู้ให้เช่าไม่ได้ ทั้งสิ้น
ข้อ 8. ผู้เช่าต้องจัดการในบริเวณบ้านเช่าอย่าให้มีสิ่งโสโครกและมีกลิ่นเหม็น และไม่กระทำการอึกทึกจนคนอื่นได้รับความรำคาญปราศจากความปกติสุข และไม่เก็บรักษาสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงและไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่น่าหวาดเสียวหน้าจะเป็นอันตรายแก่ผู้อยู่ใกล้เคียง
ข้อ 9. ถ้าผู้เช่าจะประกันเพลิงไหม้สำหรับทรัพย์สมบัติหรือสินค้าของตนภายในบริเวณบ้านเช่าต้องได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนจึงจะประกันเพลิงไหม้ได้
ข้อ 10. ถ้าผู้เช่าจะประพฤติผิดล่วงละเมิดสัญญาแม้แต่ข้อหนึ่งข้อใด หรือกระทำผิดวัตถุประสงค์ข้อหนึ่งข้อใด ยอมให้ผู้ให้เช่าทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะเข้ายึดครอบครองสถานที่และสิ่งที่เช่าได้โดยพลันและมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทันที
ข้อ 11. เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าก็ดี หรือผู้เช่าผิดสัญญาเช่าก็ดี ผู้เช่ายอมให้ถือว่าผู้เช่ายอมออกจากที่เช่าโดยไม่มีเงื่อนไข
ข้อ 12. ถ้าผู้ให้เช่าตกลงขายทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้ใดก่อนครบกำหนดการเช่าตามสัญญานี้ ผู้ให้เช่าจะแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้าเพื่อผู้เช่าเตรียมตัวออกจากทรัพย์สินที่เช่าเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือน และผู้ให้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบด้วยว่าจะตกลงขายแก่ผู้ใดเป็นเงินเท่าใดเพื่อผู้เช่าจะได้มีโอกาสตกลงซื้อได้ก่อนในเมื่อเห็นว่าสมควร
ข้อ 13. ผู้เช่าไม่นำบ้านที่เช่าไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายอาญา หรือกฎหมายอื่นที่ระบุเอาไว้เป็นความผิด กรณีที่ผู้เช่าฝ่าฝืน สัญญาข้อนี้ ผู้เช่าต้องเป็นฝ่ายรับผิดทั้งหมด
ข้อ 14. ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจในข้อสัญญานี้โดยตลอดแล้ว จึงได้ลงลายมือไว้เป็นหลักฐาน


ลงชื่อ………………………………………ผู้เช่า
(…………..…………………………)

ลงชื่อ………………………………………ผู้ให้ช่า
(………………………………………)

ลงชื่อ………………………………………พยาน
(………………………………………)

ลงชื่อ………………………………………พยาน
(…………..…………………………)
BK
 

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง เรื่องทั่วไป

ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน

cron